MT4 (Metatrader 4) กับ MT5 (Metatrader 5) เป็นสองแพลตฟอร์มที่ถูกใช้มากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ ผลิตที่ประเทศไซปรัส ผลิตภัณฑ์ของ MetaQuotes Software Corporation เป็นเครื่องมือที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยการออกแบบการแก้ปัญหาตามความต้องการแตกต่างกันไปของนักเทรดและรูปแบบการเทรด
MT4 คืออะไร
Metatrader 4 หรือเรียกสั้นๆ ว่า MT4 คือ โปรแกรมเทรดที่โด่งดังในวงการ Forex ไว้ใช้ในการดูกราฟ และดำเนินการส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ทั่วโลกนิยมใช้กัน โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบน คอนพิวเตอร์ (Windows, Mac) บนมือถือ (Android, iOS) และบน Website ก็ได้เช่นเดียวกัน
และที่สำคัญ MT4 ยังสามารถดำเนินการเทรดอัตโนมัติ เทรดโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ผ่านฟังก์ชั่น EA (Expert Advisor) ที่เทรดเดอร์ต้องเขียนโปรแกรมด้วยภาษา MQL4
MT5 คืออะไร
Metatrader 5 หรือ MT5 คือ โปรแกรมเทรดที่พัฒนามาจาก MT4 โดยเมื่อปี 2010 ทางบริษัท MetaQuotes (ผู้พัฒนา MT4) ได้เปิดตัว MT5 ขึ้นมา โดยเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆในโปรแกรมให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งจำนวน Timeframes, คำสั่ง Order, จำนวน Indicators และอีกมากมาย
ข้อแตกต่างหลักที่สำคัญของ MT5 คือ ภาษาที่ใช้เขียน EA จะใช้ MQL5 (C++)
โดยทั้งสองเป็นรุ่น แต่ละแพลตฟอร์มมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่ง MT4 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้เทรดฟอเร็กซ์โดยเฉพาะ ขณะที่ MT5 ได้รับการออกแบบเพื่อให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึง CFD หุ้น และฟิวเจอร์สได้
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง MT4 กับ MT5
| MetaTrader 4 | MetaTrader 5 |
| เหมาะสำหรับตลาดฟอเร็กซ์ | เหมาะสำหรับหลายตลาด เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น ฯลฯ |
| เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นเทรด | เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดขั้นสูงที่มีคุณสมบัติการซื้อขายเพิ่มเติม |
| ใช้ภาษา MQL4 | ใช้ภาษา MQL5 |
| รองรับการทดสอบย้อนหลัง | รองรับการทดสอบย้อนหลังที่หลากหลาย |
| ไม่มีการสนับสนุนด้านเทคนิค | มีการสนับสนุนด้านเทคนิค |
| รองรับกลยุทธ์ซื้อขายที่หลากหลาย | การซื้อขายโดยรวมไม่เหมาะสำหรับการป้องกันความเสี่ยง |
| รองรับแผนภูมิกรอบเวลาแบบดั้งเดิมแผนภูมิรายวันและรายสัปดาห์ MT4 มี 9 กรอบเวลา | รองรับ Timeframe ที่มากกว่า MT4 โดย MT5 มี 21 กรอบเวลาซึ่งรวมถึงกราฟนาที 11 ประเภท, กราฟรายชั่วโมง 7 ประเภท และกรอบเวลาแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายปี ซึ่งจะช่วยให้วิเคราะห์ตลาดได้มากขึ้น |
| รองรับ 4 คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ | รองรับ 6 คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ |
| อนุญาตให้ทำ Hedging เท่านั้น มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ทุกระดับความซับซ้อนของตลาด อินดิเคเตอร์ในตัว 30 ตัวและอินดิเคเตอร์แบบกำหนดเองฟรี 2000 ตัวกับแบบที่ต้องจ่ายเงินอีก 700 ตัว ไม่มีความลึกของตลาด | อนุญาตให้ทำทั้ง Hedging (ตามคำขอ) และ Netting มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค 38 ตัว, ออบเจกต์วิเคราะห์ 44 ตัว, 21 กรอบเวลา และกราฟที่ไม่จำกัดจำนวน มีความลึกของตลาด |
| ไม่มีปฏิทินเศรษฐกิจ | มีปฏิทินเศรษฐกิจ |
MT5 มีอะไรใหม่บ้าง
Indicator ที่มากกว่า
ใน Mt5 มี Indicator เพิ่มขึ้นมาเป็น 38 ตัว จากที่ Mt4 มี Indicator เพียง 30 ตัว หลายๆ คนอาจจะบอกว่า Indicator ที่เพิ่มขึ้นก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องว่ากันเป็นกรณีไป ตอบไม่ได้ซะทีเดียวว่า Indicator ที่เพิ่มขึ้นมาใน Mt5 ดีกว่าหรือไม่ เพราะว่า Indicator ที่มีอยู่ใน Mt4 ก็ยังใช้กันไม่หมดเลย
Timeframe ละเอียดกว่า
Mt5 รองรับการเทรดมากกว่า 9 Timeframe ในขณะที่ Mt4 มีแค่ 9 Timeframe ซึ่ง Mt5 มี Timeframe ที่เพิ่มขึ้นและละเอียดขึ้นมาก เช่น 2 นาที ถึง 15 นาที ถ้าเป็น Timeframe ใหญ่ขึ้นมาหน่อย จะมี Timeframe 6 ชั่วโมง ถึง 12 ชั่วโมง ให้เลือกใช้ ส่วนตัวมมองว่าสำหรับสายเทรดสั้นอาจจะถูกใจสิ่งนี้ เพราะว่าจะช่วยเรื่องการมองกราฟได้ละเอียดและถี่มากขึ้น
Pending Order มีให้เลือกมากกว่า
โดยปกติ Mt4 จะมีประเภทการ Pending Order 4 แบบนั่นคือ Buy Limit , Sell Limit , Buy Stop , Sell Stop เป็นต้น แต่ใน Mt5 จะมีเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คือ Buy Stop Limit , Sell Stop Limit โดย Mt5 จะมีการ Pending Order ทั้งหมด 6 ประเภท นั่นเอง
สำรวจผู้เล่นในตลาดด้วย DOM
Highlight ของ Mt5 คือ ฟังก์ชั่น DOM เราสามารถดู Bid Offer ของตลาดได้ว่า Volume ที่ราคาไหน มีความหนาแน่นซึ่งสามารถใช้คาดการณ์และวิเคราะห์การเทรดของเราได้
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ในขณะที่ MT5 เพิ่มคุณสมบัติของตัวเองขึ้นมากกว่า MT4 แต่ก็ยังมีเงื่อนไขอื่นๆที่ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ นั่นเพราะการที่ MT5 ยังมีปริมาณของ EA ที่ยังน้อยกว่ามาก หากคุณไม่ได้ประสบกับปัญหาเหล่านี้ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณจะยังจำเป็นต้องใช้ MT4 อยู่
และถ้าคุณเป็นมือใหม่ แนะนำว่าลองใช้ MT5 ไปเลยจะดีกว่าเพราะว่า MT5 เป็น Platform ใหม่ซึ่งมีอนาคตมากกว่า Mt4 แน่นอน ซึ่งสามารถใช้เทรดทำกำไรและเรียนรู้การเทรดได้ไม่ต่างกันกับ MT4 แต่เราจะได้เรียนรู้อะไรใหม่จาก MT5 ซึ่งมีประโยชน์กว่าแน่นอน Download MT5 และทดลองเทรดด้วยบัญชีเดโมได้ทันที
