🅰️🤳ในยุคที่ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบบนี้ ระบบอัตโนมัติต่าง ๆ จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่การลงทุน เราเองก็คงต้องปรับตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นให้มากที่สุด

แนวคิดในการนำระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Robot Trading มาใช้ในการลงทุน เกิดจากจุดอ่อนที่ว่า “มนุษย์มีจิตใจ” ส่งผลให้การวิเคราะห์และตัดสินใจนั้นมีอคติ อ่อนไหวง่าย ทำให้มีอารมณ์เหนือการตัดสินใจ นอกจากนี้มนุษย์คือเผ่าพันธุ์ที่ขี้เกียจ ไม่ชอบทำงานที่ต้องใช้เวลา และทำแบบเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา ที่สำคัญมนุษย์ไม่ได้มีหน้าที่ลงทุนเพียงอย่างเดียว การโฟกัสหรือสมาธิมักจะถูกดึงออกไปได้ง่าย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้เสมอ
ดังนั้นจึงเกิดไอเดียการนำ Robot หรือคอมพิวเตอร์มาลงทุนแทนมนุษย์ โดยการสร้างระบบการเทรดอัตโนมัติขึ้น มีชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น Algorithmic Trading, Program Trading, Automated Trading, System Trading และ Robot Trading ซึ่งล้วนมีความหมายใกล้เคียงกัน นั่นคือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นได้ด้วยตัวมันเองทันที เมื่อราคาหุ้น สภาวะตลาดหรือตัวแปรอื่น ๆ เข้าเงื่อนไขของโมเดลที่ถูกเขียนขึ้นโดยมนุษย์นั่นเอง
Robot จะทำงานได้ดีกว่าคนได้อย่างไร บ้างเรามาดูกัน
ข้อที่ 1. Robot ไร้อารมณ์ ซึ่งทำให้มันมีความโดดเด่นในด้าน “ความคงที่ของการตัดสินใจ” เนื่องจากมันไม่มีความรู้สึก จึงทนต่อแรงกดดันจากสภาวะต่าง ๆ ได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อการคิดและตัดสินใจ ต่างจากมนุษย์ที่หากวันไหนใจไม่นิ่ง ความสามารถในการเทรดหุ้นก็จะลดลง นักลงทุนส่วนใหญ่ที่อ่อนไหวกับการเทรดมักกอดหุ้นที่ขาดทุนโดยหวังว่าจะขึ้นในอนาคต และพอได้กำไรก็รีบขายไม่เก็บไว้ ซึ่งจะต่างกับหุ่นยนต์ที่จะซื้อขายตามโปรแกรมที่กำหนดเท่านั้น
ข้อที่ 2. Robot ไม่ขี้เกียจ ทำงานตามคำสั่งอย่างมีวินัย ด้วย Robot ทำงานตามกลยุทธ์การลงทุน เงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นแล้ว พร้อมที่จะทำงานได้โดยอัตโนมัติอย่างไม่มีอิดออดแม้ว่าจะอยู่ในช่วงตลาดผันผวนก็ตาม หุ่นยนต์จะไม่มีวันเหลวไหล เพราะมันถูกป้อนคำสั่งให้ทำหน้าที่นั้นแล้ว เวลาได้กำไรก็จะไม่หลงระเริง เวลาตัดขาดทุนจะไม่มีอาการเสียดาย เวลาขายหมูก็จะไม่มานั่งคร่ำครวญเสียใจ
ข้อที่ 3. เราสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ โดยส่วนใหญ่แล้วโปรแกรมจะนำข้อมูลย้อนหลังมาทำการพิสูจน์ไอเดียหรือกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย และนำไปออกแบบระบบเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ การนำข้อมูลมาพิสูจน์ย้อนหลัง หรือ Backtesting นั้น จะช่วยให้เห็นภาพว่าผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นอย่างไร หากเราใช้กลยุทธ์แบบนี้แล้ว ความเป็นไปได้ที่จะได้กำไรนั้นมีมากน้อยแค่ไหน
ข้อที่ 4. Robot มีประสิทธิภาพมากกว่า จะตัดสินใจและส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเข้าไปในระบบอัตโนมัติ จึงทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอให้เสียเวลา หรือต้องส่งคำสั่งซื้อขายเองด้วยมือ เพราะบางครั้งก็ส่งคำสั่งผิด ๆ ถูก ๆ หลายคนจะสั่งขายแต่ไปกดซื้อเสียอย่างนั้น สู้ดีเราเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น ค้นหากลยุทธ์ในการลงทุนใหม่ ๆ จะดีกว่า
ข้อที่ 5. ความเร็วในการซื้อขาย หุ่นยนต์สามารถทำได้เร็วกว่าแน่นอน เพราะถูกลงคำสั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อเกิดสัญญาณซื้อหรือขายก็จะทำตามคำสั่งทันที ต่างจากมนุษย์ที่ต้องประมวลการตัดสินใจในสมองก่อน ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการเทรดความเร็วสูง (High Frequency Trading) พัฒนาไปเร็วมากถึงขั้นส่งคำสั่งได้หลายครั้งในช่วงเวลาแค่กะพริบตา และทำให้เราสามารถเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ได้มากขึ้น บ่อยขึ้น เทรดข้ามตลาดหุ้นหรือแม้แต่เทรดตลอด 24 ชม. ในบางตลาด เช่น FOREX ก็ได้
ข้อที่ 6. การกระจายความเสี่ยงได้ดีและเลือกลงทุนได้หลายกลยุทธ์ การใช้ Robot เทรดหุ้นนั้นจะอนุญาตให้เราเทรดได้หลายบัญชีและหลากกลยุทธ์ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ระบบคอมพิวเตอร์สามารถสแกนเพื่อหาโอกาสการลงทุนข้ามตลาดได้ทั่วโลก พร้อมส่งคำสั่งซื้อและเฝ้าสังเกตให้กับเรา
สรุป หุ่นยนต์เทรด Forex ช่วยเทรดเพิ่มกำไรได้จริงหรือไม่?
ข้อที่ 1. หุ่นยนต์เทรดสามารถทำกำไรได้จริง แต่อาจมีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย
ข้อที่ 2. หุ่นยนต์ forex ใช้งานได้ผลดีที่สุด เมื่อใช้ร่วมกับกลยุทธ์เทรดที่เหมาะสม
ข้อที่ 3. อาจจะมีข้อผิดพลาดทางเทคนิคในระบบได้บ้าง เพราะการใช้งานระบบเทรดอัตโนมัติยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆเข่น Server VPS ในการช่วยเปิดโปรแกรม 24 ชั่วโมง
🙋”เทรดไม่เป็นก็ทำกำไรได้”เทรดเดอร์ยุคใหม่ใช้หุ่นยนต์ทำเงินแทน